ข่าวสังคมชาวบ้านประจำวันุธที่ 12 มกราคม 2565 โดยสมาคมสมาพันธ์สื่อออนไลน์ฯ
สินในน้ำ มาเข้าเวรรายงาน …………… เวลานี้พี่น้องประชาชนคนไทยเริ่มจะลำบากมากขึ้น กับข้าวของสิ่งที่ใช้ต่างๆ ได้พากันขึ้นราคาตามกันมาเป็นขบวน และยังจ่อที่จะขึ้นราคาอีกไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ต่อไปในอนาคตประชาชนจะอยู่ จะกินกันอย่างไร ชีวิตปัจจุบันนี้ว่าลำบากแล้ว ในอนาคตยิ่งจะลำบากขึ้นกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่า แถมยังมาเจอวิบากกรรมกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทยอยกันมาไม่รู้กี่สายพันธ์ จนจำไม่ได้ว่ามีสายพันธุ์อะไรบ้าง เรียกว่ามีกันแทบทุกปี เริ่มตั้งแต่ปีก่อนโน้นเจ้าสายพันธุ์อู่ฮั่น ปีต่อมาเจ้าสายพันธ์เดลต้า มาปีนี้ล่าสุด เจ้าสายพันธุ์ โอไมครอน และยังมีจออีกสายพันธุ์คือเจ้าแลมปดา ยังไม่รู้ว่ามันจะมาพร้อมกันกับเจ้าโอไมครอนหรือไม่ ถ้ามันมาพร้อมกันทีนี่แหละเรื่องใหญ่ ……………..ในส่วนเรื่องข้าวของทั้งเครื่องอุป โภค บริโภค ที่กำลังทะยอยกันขึ้นราคาอยู่เวลานี้ โดยเฉพาะน้ำมัน ขึ้นเอาๆ ประชาชนจะลำบากยังไงรัฐบาลไม่เคยสนใจ พูดมากเดียวมันก็จะพูดว่า อยู่ได้หรือเปล่า อยู่ไม่ได้ก็ย้ายไป ทำให้เจ็บกระ ดองใจเปล่าๆ อย่าว่าเรื่องของน้ำมันราคาแพงเลย เนื้อหมูเวลานี้ราคากิโลเท่าไหร่ มันแพงมาตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จนป่านนี้ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะหยุด หรืออาจจะเป็นเพราะสาเหตุโรคอหิวาต์แอฟริกัน หรือ AFS ซึ่งคาดว่าจะทำประชากรหมู่ในฟาร์มของไทยตายไปกว่า 50 % และอาจส่งผลให้ราคาหมูดีดตัวสูงไปอีกกว่า 3-4 เดือน หรืออาจจะเป็นปี ประเด็นนี้ปศุสัตว์ยังไม่ยอมรับเต็มปากว่ามีการระบาดของไวรัสชนิดนี้ในสุกรไทย …………….จากราคาน้ำมันที่ขึ้นเอาๆ จากเนื้อหมู่ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งรับรองได้เลยว่า มันจะยังไม่จบแค่นี้ เพราะว่ากำลังมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่กำลังจ่อขึ้นราคา ทั้ง พริก หอม กระเทียม น้ำปลา ยันผักและแก๊สทุกอย่างล้วนจ่อเตรียมที่จะขึ้นราคาหมด และคนที่กำลังแบกรับต้นทุนจนหลังแอ่นอยู่ขณะนี้ คือ เหล่าผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ร้านสตรีทฟู๊ดที่มีมากมายบนท้องถนนไทย รวมทั้งพี่น้องชาว บ้านที่ทำกับข้าวเลี้ยงครอบครัว ท่ามกลางพายุระบาดของโควิด-19 เจ้าสายพันธุ์โอไมครอนที่ สถานการณ์ยังไม่แน่นอน ค่าครองชีพที่กำลังดีดตัวขึ้นเรื่อยๆ กำลังทำให้คนขายอาหารเผชิญปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น และยังไม่รู้ว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่ ……………มองไม่ที่รัฐบาลกับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ก็ยังไม่มีอะไรในก่อไผ่ มีแต่ทะเลาะแย่งกันเป็นใหญ่ ชาวบ้านจะเดือดร้อนไม่สนใจ บริหารบ้านเมืองกันแบบนี้ ผมว่าให้คนจบ ป. 4 ไปเป็นนายกก็ยังได้เลย ที่จริงแล้ว รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ ให้ความสำคัญกับปากท้องของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก รัฐบาลต้องแก้ไข ไม่ใช่แก้ตัว หรือว่าโอ่ละเหยลอยชายไปวันๆ แบบนี้มันไม่น่าจะดี พวกท่านอย่าคิดว่าประชาชนเขาจะมีกินมีใช่อย่างพวกท่าน พวกท่านต้อง อย่าลืมตัวสิครับ พวกท่านไม่รู้หรือว่า เวลานี้ประชาชนเขากำลังจะอดตาย นอกจากจะเจอกับพายุของโรคระบาดจากโควิด-19 ที่ว่าแย่ๆแล้ว ยังมาเจอกับของกิน ของใช่ ราคาแพงขึ้นไปอีก พวกท่านลองนึกภาพดูสิครับว่า พวกเขาจะอยู่กันอย่างไร ครอบครัวพวกเขาจะเดือดร้อนแค่ไหน พวกท่านหรือหรือเปล่า…………….มาที่เรื่องดีๆบ้าง มีผู้นำที่คอยเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องประชาชน ตลอดจนผู้ ใต้บังคับบัญชา ถือว่าจังนั้นเป็นจังหวัดที่โชคดี เพราะว่ามีผู้นำที่ใส่ใจและห่วงใยกันมาอย่างต่อเนื่องอย่าง นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ท่านได้ให้บุคลากรภายในศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้ารับการตรวจ ATK รอบที่ 2 ตามมาตรการป้องกันโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งหลังเทศกาลปีใหม่ได้ทำการตรวจไปแล้วครั้งหนึ่ง และเพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัยทั้งของบุคลากรในศูนย์ราชการ และของพี่น้องประชาชนที่มาใช้บริการ ท่านผู้ว่าฯประจญ ได้ให้ตรวจอีกครั้งเป็นรอบที่ 2 แม้ว่าจะตรวจไปแล้วเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่เพื่อความมั่นใจของประชา ชนที่มาติดต่อราชการ จึงให้ตรวจซ้ำรอบ 2 นี่คือความห่วงใยของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียง ใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล และรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์
……….สินในน้ำ