Hotspot ในพื้นที่จังหวัดพะเยาลดลง ตามลำดับ จากความเข้มข้นของปฏิบัติการดับไฟป่า ของทุกภาคส่วน เริ่มปฏิบัติการฝนหลวงเหนือท้องฟ้าพะเยา เป็นวันที่ 2

นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาด เล็ก PM 2.5 จังหวัดพะเยา ผ่านระบบ Zoom Meeting โดยมีนายภูธนะ ชมภูมิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอและผู้แทนจาก 9 อำเภอ และผู้แทนจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม โดยข้อมูลวันที่ 18 มีนาคม 2568 จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา พบปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 มีค่า 54.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์ “คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ” (เกณฑ์มาตรฐาน 37.5) จุดความร้อนเกิดขึ้น 10 จุด นับเป็นลำดับที่ 7 ของ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยจังหวัดพะเยาเกิด Hotspot มากที่สุดที่อำเภอปง 5 จุด รองลงมาอำเภอเชียงม่วน 4 จุดและอำเภอเมืองพะเยา 1 จุด ตามลำดับ ตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 18 มีนาคม 2568 Hotspot สะสม 1,816 จุด สูงสุดที่อำเภอเชียงม่วน 496 จุด รองลงมาคืออำเภอปง 434 จุด และอำเภอดอกคำใต้ 261 จุดตามลำดับ

ล่าสุดอำเภอจุน ไม่มี Hotspot เกิดขึ้นแล้ว โดยปลัดอำเภอจุนรายงานว่า นางสาวศิรินุช จันทาพูน นายอำเภอจุน ได้สั่งการให้ทุกหมู่บ้าน ชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสาย โดยอัดคลิป ประชาสัมพันธ์ ให้ครบทั้ง 7 ตำบล และเดินเท้ารณรงค์แบบเคาะประตูบ้านทำความเข้าใจกับประชาชน

ขณะที่อำเภอปงซึ่งมี Hot spot สูงที่สุดในจังหวัดคือยังคงเหลืออีก 5 จุด อย่างไรก็ตามอำเภอปงได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นลด Hot spot จาก 32 จุดเหลือเพียง 5 จุด ซึ่งมีการบูรณาการทำงานเป็นอย่างดีและคาดว่า Hot spot จะหมดไปในที่สุด ปลัดอำเภอปงรายงานว่า จากการตรวจ พบคนนอกพื้นที่เข้ามาหาของป่า โดยได้ประชาสัมพันธ์ผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ไปบอกลูกบ้านให้งดหาของป่าทุกชนิด จะมีการสกัดจับ และดำเนินคดีโดยไม่มีข้อยกเว้น พื้นที่เสี่ยงคือตำบลงิม และตำบลขุนควร ซึ่งจะเข้าไปทำความเข้าใจอย่างเข้มข้นต่อไป

Related posts