สมาคมกอล์ฟรีสอร์ทภาคเหนือ บุกทำตลาด แดนอาทิตย์อุทัย หวังดึงนักกอล์ฟ ชาวญี่ปุ่นเข้า เชียงใหม่ – ลำพูน
*****************
นักท่องเที่ยว ทุกรุ่น ทุกวัย เด็ก ผู้ใหญ่ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต่างปักหมุด หยุดที่ สวนสัตว์เชียงใหม่ พิสูจน์ ความรักของ “น้องพลูโต”
*******************
พี่ โบ และน้องเอวา พี่ลูน่า ต่างผูกพัน สร้างสัน ความน่ารัก ให้ความสุขกับนักท่องเที่ยวเสมอ ที่ เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี
****************
ข่าวสังคมชาวบ้านประจำวันอังคารที่ 11 มีนาคม 2568 โดย..สินในน้ำ✍️….คนเราเมื่อตอนยังหนุ่มยังแน่นอะไรๆ มันก็ดีไปหมด เรียกว่าวัยห้าว แต่พออายุมากขึ้นเริ่มเข้าสู่วัยหด อะไรๆ ที่มันเคยตอบโจทย์เราได้ดีมันก็เริ่มถดถอยลงไปตามกาลเวลา แต่พออายุมากขึ้นอีกจนเรียกว่าคนแก่ ที่เข้าสู่สังคมของคนชรามันก็เริ่มเข้าสู่วัยเหี่ยว ในวัยนี้อย่าลืมคือว่าตัวเองยังคงเป็นซุปเปอร์แมนเหมือนเดิม ทำอะไรก็อย่าลืมนึกถึงอายุของตัวเอง ยิ่งวัยเหี่ยวยิ่งต้องระวังตัว วัยนี้ต้องดูแลสุขภาพ ต้องรักตัวเองให้มาก….ลองมาดูแต่ละวัย 1. วัยห้าวฮีกเหิม วัยนี้เกษียนในช่วงต้น เป็นช่วงที่มีอายุ 60 – 69 ปี ส่วนใหญ่ยังแข็งแรง พลังงานยังมีเต็มเปี่ยมทำอะไรๆ ได้เหมือนกับช่วงก่อนเกษียน และหลายคนในวัยนี้ยังไม่รู้จักคำว่าเกษียน สามารถทำงานได้ต่อเนื่องทำให้ยังมีรายได้ และรู้สึกว่าตนเองยังมีค่าต่อครอบครัวและสังคม นอกจากนี้ยังเป็นวัยที่ฮึกเหิมอยากทำสิ่งใหม่ๆ ที่เคยใฝ่ฝีนไว้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่หลายคนอยากเริ่มต้นอาชีพใหม่ นำเงินที่เก็บออมไว้ออกไปลงทุนทำธุรกิจ ทำไร่ ทำสวน ทำร้านอาหาร ฯลฯ เพราะความห้าวผสมกับความฮึกเหิมนี้เอง ที่ทำให้หลายคนต้องสูญเงินที่เก็บออมจำนวนมาก เพราะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ โดยไม่ได้ศึกษาความเป็นไปได้ไม่ได้ประเมินความสามารถความเหมาะสมกับกำลังวังชาของตน….วัยหด 2.วัยนี้ถือเป็นวัยเกษียนจริง เป็นช่วงอายุระหว่าง 70 – 79 ปี เพราะความสามารถในการใช้ชีวิตจะลดลง ไม่ว่าอดีตข้าราชการ อดีตผู้บริหาร ผู้มีอาชีพอิสระ หรือเจ้าของกิจการ จะไม่มีความแตกต่างในด้านการใช้ชีวิตในวัยหดสักเท่าไหร่ ในขณะที่ขีดความสามารถในการหารายได้ลดลงจนเกือบจนเกือบหมด แต่ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจะมีมากขึ้น เพราะโรคภัยจะแสดงอาการออกมาชัดเจนมากขึ้น จึงควรลดกิจกรรมต่างๆ ลง และให้ความสำคัญกับตัวเองดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจให้มากขึ้น ส่วนลูกหลานก็ปล่อยให้พ่อ-แม่มันเลี้ยง อย่าเอามาเป็นภาระของเราอีก อย่ามั่นใจในศักยภาพในอดีตของตัวเองจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาก่อนวัยอันควร…. 3. วัยเหี่ยว วัยนี้เป็นช่วงในวัย 80 ปีขึ้นไป เป็นช่วงเข้าสู่วัยชราและวัยพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยในช่วงที่ชราภาพมากๆ จำเป็นต้องมีคนคอยดูแล เพราะปัญหาสุขภาพจะมีมากขึ้น ความจำจะแย่ลงขณะที่ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของสุขภาพ จึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมทางการเงินไว้สำหรับการใช้จ่ายด้านสุขภาพเป็นหลัก เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าเห็นแค่อายุ 60 แล้วจะเหมารวมว่าเป็นผู้สูงอายุเหมือนๆ กันหมด คนไทยก็มีอายุยืนขึ้น โดยผู้ชายเฉลี่ยอยู่ที่ 75 ปี ขณะที่ผู้หญิงเฉลี่ย 80 ปี และจากสถิติประชากรของประเทศไทยพบว่า ถ้ามีชีวิตรอกมาจนถึงอายุ 60 ปีได้แล้วล่ะ ก็จะมีโอกาสที่จะมีชีวิตต่อไปจนถึงอายุประมาณ 80 ปีขึ้นไป เพราะฉะนั้นถ้าวันนี้เราประคับประคองชีวิตมาได้จนถึงวัยหลังเกษียนแล้ว ก็มองตัวเลขอายุ 80 ปีไว้เป็นเป้าหมายได้เลย จะได้เตรียมพร้อมรับมือกับชีวิตในวัย 70 – 80 ปี ไว้ หากไม่เตรียมความพร้อมในวัยห้าวให้รอบคอบ ในขณะที่ยังมีเรี่ยวแรงหารายได้ ซึ่งก็อาจจะยังไม่มีความทุกข์ในวันนี้ แต่ถ้าเข้าสู่วัยหดและวัยเหี่ยวแล้ว เราย่อมจะเป็นคนที่มีทุกข์หนักพร้อมกับความเหี่ยวเฉาได้
.…สินในน้ำ
