วันที่ 8 มีนาคม 2568 เวลา 15.00 น. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานประชุมติดตามการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดพะเยา เชียงราย แพร่ และน่าน ณ ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา จากสถานการณ์ช่วงวันที่ 1-6 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา พื้นที่จังหวัดพะเยา พบจุดความร้อนในพื้นที่มีความถี่และเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา มีการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและปรับเปลี่ยนการทำงานตามสถานการณ์อย่างจริงจัง ส่งผลให้จุดความร้อนลดลงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งพบว่ากาคเกิดแนวไฟป่าในพื้นที่พะเยาปีนี้ มีลักษณะที่แตกต่างจากที่ผ่านมา เดิมเป็นแนวตั้ง แต่พบว่าเกิดแนวไฟป่าแบบแนวยาวซึ่งไม่เคบพบการเกิดไฟลักษณะนี้ในพื้นที่ โดยต้องมีการศึกษาแนวไฟที่เกิดขึ้น และหาวิธีรับมือแก้ไขปัญหาต่อไป อีกทั้ง เน้นย้ำประเด็นการสื่อสารข้อเท็จจริงไปยังประชาชนผ่านการแถลงข่าว สร้างความเข้าใจ และประชาสัมพันธ์ผ่านหอกระจายข่าวและเสียงตามสาย เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างประชาชนกับภาครัฐ โดยมีนายภูธนะ ชมภูมิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นายศิวัช ฟูบินทร์ ปลัดจังหวัดพะเยา ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา หัวหน้าส่วนจังหวัดพะเยา หัวหน้าส่วนราชการข้าราชการ สังกัดกระทรวงทรัพยากรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา เชียงราย แพร่ น่าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ
นายภูธนะ ชมภูมิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา รายงานว่า หลังจากที่จังหวัดพะเยา พบจุดความร้อนในพื้นที่มีความถี่และเพิ่มสูงขึ้น นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา สั่งให้ประชุมติดตามสถานการณ์เป็นประจำทุกวัน และลงพื้นที่ยกระดับมาตรการเร่งด่วน 4 มาตรการ ได้แก่ในพื้นที่ตำบลที่มีการพบจุดความร้อนในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้นายอำเภอประกาศปิดป่าสงวนแห่งชาติโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 25 (1) แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ. 2507 และประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรื่องแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ. 2559 เป็นเวลา 7 วันหากยังพบว่ามีจุดความร้อนขึ้นให้ประกาศปิดไปจนกว่าจะไม่มีการพบจุดความร้อนเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 2.ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านแจ้งการประกาศปิดป่าสงวนแห่งชาติและประกาศปิดป่าอนุรักษ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบโดยทั่วกันพร้อมทั้งแจ้งให้ทราบถึงมาตรการกฎหมายที่จะบังคับใช้กับผู้ฝ่าฝืนเข้าป่าอย่างเคร่งครัด 3.ให้ปรับแผนการลาดตระเวนให้เหมาะสมกับพื้นที่เสี่ยงจะเกิดจุดความร้อนและเวลามักจะมีการลักลอบจุดไฟเผาป่า หากพบผู้ฝ่าฝืนเข้าป่าหรือพบยานพาหนะที่เข้าไปจอดทิ้งไว้ในป่าให้เฝ้ารอและจับกุมดำเนินคดีต่อผู้ฝ่าฝืนอย่างเคร่งครัด 4.ให้หน่วยงานร่วมบูรณาการในการลาดตระเวนในพื้นที่ป่าและชุมชนประสานกับกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่นั้นนั้นก่อนการเริ่มลาดตระเวนทุกครั้ง
จากนั้น ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เยี่ยมชมการสาธิตการสับย่อยวัสดุใบไม้ เพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิง และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การลงพื้นจังหวัดพะเยา เพื่อซักซ้อมการดำเนินงานและแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน เนื่องจากปัญหา PM 2.5 เป็นปัญหาที่กระทบต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งได้เน้นย้ำโดยเฉพาะประเด็นพื้นที่ป่าในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกำชับเจ้าหน้าที่ให้ทำงานอย่างเต็มที่และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยดูแลและสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน อย่าจุด อย่าเผา หากพบการกระทำผิดเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐ สามารถขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาได้เพียงส่วนหนึ่ง แต่ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนจะสามารถทำให้การแก้ไขปัญหาสำเร็จได้เร็วขึ้น ส่วนประเด็นจุดความร้อนประเทศเพื่อนบ้าน ในวันนี้(8 มี.ค. 68) มีรายงานว่า ที่ประเทศเมียนมาค่อนข้างสูง จะเร่งประสานทางปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของประเทศเมียนมาร่วมปฏิบัติการตามข้อตกลงที่มีร่วมกันเรื่องของยุทธศาสตร์ฟ้าใสและการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า
