“เล่าเรื่อง เมืองล้านนา” 27 กุมภาพันธ์ 2568

รองพ่อเมืองเลย เป็นประธานเปิดงานเลยเดอะเบส 2025 ที่ห้างแจ่มฟ้าเมืองลำพูน

********************

วันนี้ สองไฮยีน่าน้อย มาฉายความน่ารัก พร้อมชวนช่วยกันโหวตชื่อน้อง หน่อย น๊า ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

**********************

ข่าวสังคมชาวบ้านประจำวันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 โดยสินในน้ำ✍️….สมัยที่เรายังหนุ่มอะไรๆ มันก็ไม่มีปัญหา เรื่องเจ็บเล็กเจ็บน้อยเป็นของธรรมดาไม่นานก็หาย แต่พอมีอายุมากขึ้น เจ็บเล็กเจ็บน้อย กลายเป็นเจ็บใหญ่ เพราะสังขารมันไม่อำนวยเหมือนเมื่อตอนยังหนุ่ม เจ้ากระ ดูกที่มันเคยแข็งแกร่ง พออายุมากขึ้น ทั้งมวลกล้ามเนื้อ ทั้งโครงกระดูก และความแข็งแรงที่เป็นผลมาจากการแก่ตัว หรือการเป็นผู้สูงอายุที่ขี้เกียจเดิน อันนี้แหละที่อันตรายกับคำว่าขี้เกียจเดิน หรือว่าไม่ค่อยมีเวลา แต่เอาเวลาส่วนใหญ่ไปเลี้ยงหลาน ซึ่งถ้าหากไม่พยายามยืน/เดิน ให้มากขึ้น นั้งนอน/นอนเท่าที่จำเป็น อันนี้น่ากลัวนะครับคนแก่….เพราะว่าหลังอายุ 60 -70 ปี มันยากที่จะไปลดน้ำหนักไม่กินนั้นไม่กินนี้อันนี้เลิกคิดไปได้เลย ยิ่งถ้าไม่ออกกำลังกายเจ้ากล้ามเนื้อทั้งหมดอาจหายไปมันอัตรายมากๆ เพราะว่าการเดินเป็นการออกกำลังกายที่ดี และไม่เจ็บเข่า ถ้าผู้สูงอายุป่วย และเข้าโรงพยาบาล การนอนเพียง 1 สัปดาห์ ผู้สูงอายุจะเสียมวลกล้ามเนื้ออย่างน้อยก็ 5% ซึ่งปกติผู้สูงอายุจำนวนมากที่ไม่ทำอะไรด้วยตนเอง มีแต่จ้างคนมาดูแลคอย พยุงนั้นพยุงนี้ อันนี้จะเสียมวลกล้ามเนื้อเร็วขึ้น ต้องพยาบามช่วยตัวเองให้มาก เพราะตราบใด ที่คนแก่พยายามเดินหรือเคลื่อนไหวด้วยตัวเองบ่อยๆกล้ามเนื้อทั้งหมดของร่างกายจะเกี่ยวข้องรวมไปถึงการกลืนอาหารก็จักดีขึ้น….สำหรับคนแก่ที่ไม่ค่อยเดิน หรือขาเคลื่อนไหวน้อย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาจะได้รับผลกระทบที่รุนแรง อย่างน้อยต้องหมั่นฝึกยืน/นั้งยองๆ วันละ 20-30 ครั้ง หรือยืนขึ้นทันทีเมื่อก้นสัมผัสเก้าอี้ ดังนี้ต่อไปนี้คนแก่ทั้งหลาย จงรักตัวเองให้มากขึ้น จงเอาเวลาที่เหลือมาดูแลตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระของใคร ส่วนหลานๆ ก็อย่าไปทุ่มเวลาอยู่กับเขาหมด เพราะยังไงเขาก็ยังมีเวลาอยู่ในโลกใบนี้ได้อีกนาน ส่วนเราไม่รู้วันไหนจะไปจากโลกนี้ เพราะฉะนั้นจงให้เวลากับตัวเองมากขึ้นหมั่นดูแลสุขภาพทำให้กล้ามเนื้อของเราแข็งแรงเข้าไว้ เพราะว่าเมื่อใดกล้ามเนื้อขาของเราอ่อนแอลง เราจะต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัว ดัง นั้นการเดินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก….ไปที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่บอกว่ามีคนต่างด้าวเยอะมาก จากการตรวจสอบแล้ว คนต่างชาติจะมีมากกว่าชาวบ้านแถวนั้น จริงหรือเท็จไม่ ทราบ ปราฏกว่าทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขีดเส้น 7 วัน ต้องตรวจสอบคนต่างด้าวว่ามันมีมากจริงหรือเปล่า โดยเตรียมเปิดปฏิบัติการเชิงรุกให้เห็นผลเป็นรูปธรรม สั่งทุกหน่วยคุมเข้มมาตรการคนต่างด้าวที่มีพฤติกรรมแอบแฝงผิดกฏหมาย ก่อความเดือดร้อนต่อประชาชน หากพบให้ดำเนินคดี เพิกถอนใบอนุญาตอย่างเด็ดขาด กำชับท้องที่ต้องมีแผนเผชิญเหตุ บังคับใช้กฎหมาย เข้าระงับเหตุคนต่างด้าวทันที….ไม่เพียงแค่อำเภอปาย ในทุกพื้นที่ที่คนต่างด้าวมีพฤติกรรมที่อาจขัดต่อความสงบของสังคม ฝ่าฝืนกกหมายบ้านเมือง ก่อความวุ่นวายหรือความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะต่อพี่น้องประชาชน ตลอดจนการรวมกลุ่มแสดงออกหรือจัดกิจกรรมในลักษณะที่กระทบภาพลักษณ์และความมั่นคงของประเทศ ถือเป็นเรื่องที่ดีนะครับ
….สินในน้ำ

Related posts