หัวข้อ : อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จัดประชุมวางแนวทางแก้ปัญหาช้างป่า พร้อมผลักดันการตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวัง

อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด โดยเฉพาะช้างป่าที่มีจำนวนหนึ่งหากินอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ลงมาหากินในพื้นที่เกษตรรอบเขตอุทยานฯ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรและทรัพย์สินของชุมชน รวมถึงสร้างความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตของราษฎรพื้นที่

และมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จัดทำ โครงการ “ศูนย์ปฏิบัติการกลางความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อการแจ้งเตือนภัยชุมชนและบริหารจัดการข้อมูลช้างป่าเชิงบูรณาการ เพื่อสนับสนุนโครงการพัชรสุธาคชานุกรักษ์” ซึ่งจะดำเนินการในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด โดยได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุนพัฒนาดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วิชาญ ทุมทอง คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เป็นหัวหน้าโครงการ

อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ภายใต้สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งมีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ และเข้าไปทำลายทรัพย์สินหรือพืชผลทางการเกษตรของราษฎร
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เมื่อวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จึงจัดการประชุมเรื่อง “ประเด็นปัญหาช้างป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ แนวทางการผลักดันช้างป่า การทำงานของชุดอาสาเฝ้าระวังพื้นที่เข้าออกของช้างป่า เพื่อออกแบบระบบเฝ้าระวัง และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่”


ในการประชุมครั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิชาญ ทุมทอง หัวหน้าโครงการฯ ได้เข้าพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูล สำรวจลักษณะภูมิประเทศ ติดตามการทำงานของชุดอาสาสมัครผลักดันช้างป่า เพื่อออกแบบระบบเฝ้าระวังช้างป่า และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่ ร่วมกับคณะทำงาน ได้แก่
1. นายภาณุพันธ์ โภคามาศ เลขาสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ (สอป.) และอนุกรรมาธิการการทหาร วุฒิสภา
2. นายพิทักษ์พงศ์ บุญประเสริฐ หัวหน้าคณะทำงานแก้ปัญหาช้างป่า สมาคมอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ (สอป.)
3. นายศักดา จันทราศรี
4. นายวีระพันธ์ สก็อตต์
5. นายรัฐภูมิ คชพงษ์
ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการกลางด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
2. พัฒนาระบบ AI สำหรับเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยช้างป่าแบบอัตโนมัติ
3. สร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างเป็นธรรม
4. วิจัยและพัฒนาระบบรั้วอิเล็กทรอนิกส์
5. จัดทำแพลตฟอร์มข้อมูลกลางด้านช้างป่า
6. พัฒนาโมเดล AI วิเคราะห์ลักษณะช้างป่า
7. วิจัยและพัฒนาโครงข่ายสื่อสารไร้สายในพื้นที่ไม่มีสัญญาณ

โดย นายชวินทฐ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ , นายสอยดาว สืบทิ หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วผลักดันช้างป่าของอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนชุดอาสาฯ ในพื้นที่ ได้ให้ข้อมูลประเด็นปัญหาช้างป่าในพื้นที่ การทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่และกลุ่มอาสาฯ และร่วมหารือเกี่ยวกับแนวทางการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI), โดรนตรวจการณ์, ระบบกล้อง AI, รั้วอิเล็กทรอนิกส์, และระบบสื่อสารไร้สายแบบ LoRa มาใช้ในการตรวจจับ แจ้งเตือน และบริหารจัดการข้อมูลช้างป่าในพื้นที่เสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยช้างป่า และผลักดันการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการกลางความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อการแจ้งเตือนภัยชุมชนและบริหารจัดการข้อมูลช้างป่าเชิงบูรณาการ ซึ่งจะนำไปสู่การบริหารจัดการอย่างยั่งยืนในระยาว เช่น ควบคุมประชากรช้างป่า, สร้างคูกั้นช้าง, ปรับปรุงแหล่งอาหารและน้ำ, คุกขังช้างป่า เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการฯ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏได้จัดทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจ เพื่อกำหนดตำแหน่งติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวของช้างป่าร่วมกับระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบเฝ้าระวังช้างป่าในแนวเขตป่าและพื้นที่รอยต่อระหว่างเขตอนุรักษ์กับพื้นที่ชุมชน การดำเนินงานดังกล่าวต้องอาศัย การประมวลผลข้อมูลจากเทคโนโลยี AI ร่วมกับข้อมูลภาคสนามที่ได้จาก เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วผลักดันช้างป่าของอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ เครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า ประจำพื้นที่ต่างๆ และ ราษฎรในพื้นที่ ที่มีบทบาทสำคัญในการแจ้งเบาะแสและติดตามพฤติกรรมของช้างป่าในแต่ละพื้นที่ ระบบเหล่านี้จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็น
– อัตลักษณ์ของช้างแต่ละตัว (เช่น ลักษณะภายนอก, เพศ, อายุ)
– พฤติกรรมการเคลื่อนไหว และระดับความก้าวร้าว
– พิกัดและเส้นทางที่ช้างป่าออกหากินนอกพื้นที่อนุรักษ์
– รูปแบบการหากิน และการเข้าใกล้พื้นที่ชุมชนในแต่ละช่วงเวลา

ข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมและจัดทำเป็นฐานข้อมูลกลาง เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงผ่านช่องทางต่าง ๆ แบบ Realtime อาทิ กลุ่มไลน์ชุมชน ป้ายเตือน หรือระบบเตือนภัยในหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนสามารถเตรียมความพร้อมและลดความเสี่ยงต่อชีวิต ทรัพย์สิน และพืชผลทางการเกษตรได้อย่างทันท่วงที
ในระยะยาว ฐานข้อมูลดังกล่าวจะพัฒนาเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนและบริหารจัดการช้างป่าอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันและลดความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง ตลอดจนส่งเสริมแนวทางการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลและยั่งยืนระหว่างคนกับช้างป่า

 

 

 

Related posts