“เล่าเรื่อง เมืองล้านนา” 14 เมษายน 2568

หยก ปนันรัตน์ เบอร์ 1 มาแรงเดินทุกที่ ได้รับการต้อนรับทั้ง 4 แขวง กระแส ยก ทีม 1 ถึง 6 มาแรง ชาวเชียงใหม่ แห่เทใจ

**********************

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แต่งรถน้องเอวา ร่วมเทศกาลสงกรานต์ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่

**************(***************

่าวสังคมชาวบ้านประจำวันจันทร์ที่ 14 เมษายน 2568 โดยสินในน้ำ✍️….ยังอยู่ในช่วงของเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลที่มีความสุข จะเล่นน้ำสาดน้ำก็เอากันพอเหมาะพอควร อย่าเล่นจนทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน อีกทั้งการดื่มกินเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก็ดื่มอย่างมีสติ อย่าดื่มจนขาดสติ เพราะถ้าดื่มจนคุมสติไม่อยู่ สุดท้ายแล้วปัญหาก็จะตามมาอีกทั้งการดื่มก็ต้องดูว่าที่ไหนเขาห้ามดื่มห้ามกิน ไม่ใช่อยากจะดื่มก็ดื่มไปเรื่อยไม่ได้ดูที่เขาห้าม อันนี้ก็มีสิทธิ์ได้ไปพักผ่อนกันที่โรงพัก อาจจะเสียค่าปรับ หรืออาจจะทั้งจำทั้งปรับ อดไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ….หลังจากที่ได้มีการเปิดปราศัยย่อยของกลุ่มเพื่อเชียงใหม่ นำโดย หยก ปนันรัตน์ วิริยะกุลศานต์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เบอร์ 1 และกลุ่มผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ เบอร์ 1 ถึง 6 โดยมีพี่น้องในเขตเทศบาลและพี่น้องชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เดินทางเข้ามาร่วมรับฟังการปรา ศัยในครั้งนี้กว่าพันคนทั้ง 4 แขวง ถือเป็นการตอบรับได้เป็นอย่างดีที่พี่น้องในเขตเทศบาลได้ให้ความสำคัญกับการเมืองในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะการเมืองในระดับเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่มีการเปลี่ยนแปลง การปราศรัยครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของกลุ่ม เพื่อเชียงใหม่ ที่มี หยก ปนันรัตน์ วิริยะกุลศานต์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เบอร์ 1 และกลุ่มผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ เบอร์ 1 ถึง 6….เป็นการประกาศจุดยืนทางการเมืองอย่างชัดเจน ภายใต้ แนวคิด ท้องถิ่นควรเป็นเรื่องของคนท้องถิ่น โดย หยก ปนันรัตน์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เบอร์ 1 ได้ย้ำถึงความพร้อมในการที่อาสาเข้ามาทำหน้าที่ฝ่ายบริหารเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกันนี้ หยก ปนันรัตน์ ยังได้กล่าวบนเวทีว่า หมดเวลาแล้วที่จะแบ่งแยกว่าเป็นพื้นที่ของใคร เพราะเมืองเชียงใหม่คือพื้นที่ของเราทุกคนและเรา กลุ่มเพื่อเชียงใหม่ขออาสาเข้ามาทำงาน มาทำหน้าที่เพื่อแผ่นดินเกิด เพื่อพี่น้องชาวนครเชียงใหม่อย่างเท่าเที่ยม ไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่มีสีนั้นสีนี้ ทุกคนคือสีเดียวกัน สีของคนนครเชียงใหม่ ที่พวกเราจะต้องเดินไปด้วยกัน เพราะพวกเราคือพี่น้องที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินเกิดมาด้วยกัน และเราก็จะต้องมาร่วมด้วยช่วยกันเพื่อสร้างให้นครเชียงใหม่ของเราเป็นนครแห่งความมั่งคั่ง เป็นนครแห่งความสุข เป็นนครที่จับได้ต้องได้….กลุ่มเพื่อเชียงใหม่ ที่นำโดย หยก ปันรัตน์ วิริยะกุลศานต์ ผู้สมัคร นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เบอร์ 1 และผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ เบอร์ 1ถึง 6 ซึ่งสมัครในนามกลุ่มอิสระ ที่กล้าตัดสินใจในทุกเรื่องโดยที่ไม่ต้องรอส่วนกลางทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ ของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ก็อย่างที่เธอได้บอกเอาไว้ว่า ท้องถิ่นควรเป็นเรื่องของคนในท้องถิ่น นี่คือวิสัยทัศน์คนรุ่นใหม่ ที่ขออาสา และขอโอกาสจากพี่น้องในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ให้กลุ่มเพื่อเชียงใหม่ ได้เข้ามาทำงาน ได้เข้ามทำหน้าที่ให้แผ่นดินที่พวกเขาเกิด มาทำงานให้กับพี่น้องชาวบ้านในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ กว่า 2 ปีที่ หยก ปนันรัตน์ และกลุ่มเพื่อเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ได้รับทราบข้อมูลต่างๆ ว่าอันไหนควรจะแก้ อันไหนควรจะทำให้มันดีกว่าเดิม และอันไหนควรทำก่อน ทำหลัง กว่า 2 ปี ที่พวกเขากลุ่มเพื่อเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ศึกษามาโดยตลอด และทราบมาแทบทุกเรื่อง เพียงแต่ยังไม่ได้เข้าไปทำหน้าที่ให้กับพี่น้อง จึงขออาสาและขอโอกาสเข้ามาทำงานให้กับพี่น้องในทุกๆ สี ……งามไส้ช่วงสงกกรานต์
น้ำในคูเมืองเป็นสีเขียวชาวบ้านบอกทำไมไม่ล้าง
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 ได้มีการแชร์ภาพในโลกโชเชียลไปทั่ว พร้อมกับคำพูดที่ไม่สามารถนำเอามานำเสนอได้ ทุกคำพูดล้วนแต่จิ๊ดเข้าไปในกระดองใจ นั้นคือภาพของน้ำในคูเมืองช่วงแจ่งก๊ะต๊ำที่กลายเป็นสีเขียวมรกต โดยมีประชาชนได้พูดว่า บริหารงานกันอย่างไร ถึงได้ปล่อยให้น้ำในคูเมืองเป็นสภาพเช่นนี้ได้อย่างไง ทั้งที่ก็รู้ว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะแห่กันเข้ามาเล่นน้ำในคูเมืองกันเยอะ ทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเจ้าของพื้นที่คือเทศบาลนครเชียงใหม่ ทำไมไม่ทำให้เรียบร้อย จะล้างหรือว่าปรับสภาพน้ำให้มันเล่น ได้แบบนี้ไม่อายเขาหรือ ปีหน้านักท่องเที่ยวหดหายไปจะทำอย่างไร เมืองแห่งการท่องเที่ยวแต่ทำออกมาได้ขายหน้ามาก ทำลายชื่อเสียงเมืองเชียงใหม่สุดๆ นี่คือข้อมูลที่มีคนแชร์ในโลกโชเชียล อีกคนก็แชร์มาว่า ปรกติแล้ว เทศบาลนครเชียงใหม่เค้าจะล้างก่อน ที่เทศกาลสงกรานต์จะเริ่มไม่ใช่เหรอ ทำไม่สภาพเป็นแบบนี้ ถ้าไม่ทำอะไรเลยใครหน้าไหนเขาจะกล้าลงเล่นน้ำ หรือกล้าเอามาสาดผู้คน อีกหนึ่งข้อความอันนี้จิ๊ดไม่เบา เขาบอกว่าประเพณีระดับโลกแบบนี้ น้ำที่เล่น หน่วยงานที่รับผิดชอบทำได้แค่นี้เหรอ ถ้าผมเป็นรัฐบาล ผมจะต่อน้ำประปาท่อใหญ่ๆ แล้วประกาศห้ามใช้น้ำในรอบคูเมืองเลย เห็นภาพนี้แล้ว ใครไม่อายคนเชียงใหม่เขาอาย

Related posts