วันที่ 6 มีนาคม 2568 เวลา 15.00 น. ที่ อาคารเอนกประสงค์บ้านชาติภูไท หมู่ที่ 8 ตำบลสันโค้ง อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายภูธนะ ชมภูมิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ฝ่ายทหาร กอ.รมน.จังหวัดพะเยา เจ้าหน้าที่ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา ฝ่ายปกครอง ร่วมติดตามการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า พื้นที่อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา โดยมีผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านชาติภูไท นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสันโค้ง และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ข้อมูลและรายงานเหตุการณ์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เน้นย้ำ ผู้นำชุมชน ท้องที่ท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้มงวดการเข้าพื้นที่ป่าโดยใช้เครือข่ายชาวบ้านช่วยสอดส่องดูแล ห้ามปราม และแจ้งเหตุการณ์เมื่อพบเห็นการเผา อีกทั้งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชน ด้านเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการมาตรการลาดตระเวนอย่างเข้มงวด และมอบหมายให้ฝ่ายปกครองดำเนินการประกาศปิดป่าที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้หากพบการฝ่าฝืนให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมคณะ ติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานฯ ณ จุดเฝ้าระวังป้องกันไฟป่าที่ วล.21 บ้านกิ่วแก้ว หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยข้าวก่ำ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นจุดรอยต่อระหว่างอำเภอดอกคำใต้และอำเภอจุน จังหวัดพะเยา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวฯ เป็นจุดเสี่ยงเกิดการเผาช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รายงานว่า มีการลาดตระเวนและเฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟไหม้ในพื้นที่ ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งดำเนินการทำแนวกันไฟป้องกันพื้นที่ รวมถึงดำเนินการมาตรการลงทะเบียนสำหรับประชาชนที่จะเข้าไปหาของป่า และประชาสัมพันธ์ กิจกรรมเคาะประตูบ้าน ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เน้นย้ำ กอ.รมน.จังหวัดพะเยา ติดตามข่าวผู้มีความเสี่ยงกระทำความผิดในพื้นที่ และเน้นย้ำ ผู้นำชุมชน ช่วยสอดส่องดูแลความเรียบร้อย เมื่อพบเหตุการณ์ผิดปกติขอให้ผู้นำชุมชนแจ้งนายอำเภอ ฝ่ายปกครอง เพื่อดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย
ด้านนายภูธนะ ชมภูมิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เน้นย้ำ การจัดชุดลาดตระเวน ดำเนินการประชาสัมพันธ์แบบเคาะประตูบ้านให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อยกระดับการทำงานจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย พร้อมใช้มาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเด็ดขาด ยังคงมาตรการให้ทุกอำเภอตรวจสอบพื้นที่เผาไหม้ (Burn Scar) โดยประสานงานร่วมกับฝ่ายทหาร จัดชุดลาดตระเวนเพิ่ม ปรับเวลาการลาดตระเวน และใช้มาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเด็ดขาดทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น ห้ามเข้าพื้นที่ป่าอนุรักษ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
