“เล่าเรื่อง เมืองล้านนา” 8 สิงหาคม 2567

ผู้ว่าราชการจังหวัด พะเยา ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ อำเภอเชียงคำ และอำเภอ ภูซาง จังหวัด พะเยา

**********************

โรงพยาบาล สวนปรุง จัดพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในโอกาสวัน เฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง

***********************

ข่าวสังคมชาวบ้านประจำวันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2567 โดยสินในน้ำ✍️….การที่ผมพูดถึงคนแก่บ่อยๆ พี่น้องก็อย่าพึงรำคาญ เพราะอีกไม่นานท่านก็ต้องมาเป็นคนแก่เหมือนกัน ถ้าโชคดีนะ มีหล่ายคนที่ไปไม่ถึงคนแก่ต้องมาจากไปเสียก่อนที่จะได้เป็นคนแก่ เพราะฉะนั้นใครที่ได้เดินทางมาถึงคำว่าแก่ จงคิดเสมอว่าท่านโชคดีที่เดินทางมาถึงการที่ได้เป็นคนแก่และอีกไม่ถึงสองเดือนคนแก่ก็จะเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากเกษียนอายุ ถึงแม้ว่าบางคนอายุ 60 ยังไม่แก่ยังมีไฟอยู่ แต่ก็อย่าลืมว่าคนแก่มันก็เหมือนรถที่ใช้มานาน มันต้องมีการสึกหรอบ้างเป็นธรรมดา….คนเราเมื่อเข้าสู่อายุ 60 ปี จนถึงเวลาที่ชีวิตปิดสนิทลง ในช่วงเวลานี้มีบางฉากที่ควรใส่ใจ เราจะรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง แล้วเราจะไม่ตืนตระหนกเมื่อเวลานั้นมาถึง ฉากแรกคือคนที่อยู่รอบข้างจะน้อยลงไปเรื่อยๆ คนรุ่นพ่อ ปู่ย่าตายายของเรา ส่วนใหญ่จะจากไปกันแล้ว ส่วนเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันส่วนใหญ่ก็ยุงกับเรื่องดูแลตนเอง คนรุ่นลูกรุ่นหลานก็ยุ่งกับงานของตัวเอง ภรรยาหรือสามีบางคน อาจลาจากไปก่อนแล้วด้วย เหลือแต่วันว่างๆ เท่านั้นที่เป็นเพื่อนอยู่กับเรา เราต้องเรียนรู้ที่จะเคยชินกับการอยู่คนเดียว ลิ้มรส และเผชิญกับความเหงาตัวเอง….ฉากต่อไปสังคมจะสนในในตัวเราลดน้อยลงเรื่อยๆ ไม่ว่าอาชีพการงานของเราจะสดใสแค่ไหนในอดีต มีชื่อเสียงแค่ไหน เมื่ออายุมากขึ้น จะเปลี่ยนเราเป็นชายชราและหญิงชราธรรมดา และสปอตไลท์จะไม่ส่องที่ตัวเราอีกต่อไป เราต้องเรียนรู้ที่จะหลบอยู่ในมุมเงียบๆ เพื่อชื่นชม ตื่นเต้นกับสภาพคนรุ่นหลัง แทนเกิดความอิจฉาหรือตำหนิพวกเขา ฉากต่อไป คืออันตรายเกิดขึ้นตลอดในอนาคตข้างหน้า กระดูกหัก หลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดอุดตัน สมองลีบ มะเร็ง ฯลฯ โรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายอาจมาเยี่ยมเยือนเรา แม้เราไม่อยากต้อนรับ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคพวกนี้ เหมือนเป็นเพื่อนกันเลย และเลิกเพ้อฝันถึงชีวิตที่มั่นคง โดยปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องรักษาทัศนคติที่ดี และออกกำลังกายอย่างเหมาะสมตลอดจนให้กำลังใจตัวเองให้เดินหน้าต่อไป….มาที่เรื่องของเงินดิจอทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่เวลานี้พี่น้องกำลังทยอยกันลงทะเบียนตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้ไปลงกันก่อน ซึ่งเวลานี้ปัญหาเกิดขึ้นมากมายอะไรก็ยังไม่รู้ คนแจกเขาก็บอกให้ไปลงทะเบียน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อในรัฐบาลจึงไปลงกันเป็นสิบๆล้านคน และยังทยอยกันลงไปเรื่อยๆ แต่มีข่าวออกมาว่า ทางแบงค์ชาติ ได้ออกมาเตือนประชาชนที่ลงทะเบียนกันไปแล้วหลายสิบล้านคน โดยบอกว่าเป็นห่วงมากที่สุด ก็คือข้อมูลส่วนบุคคลของคนไทย 50 ล้านคน การสมัคร แอปทางรัฐ ต้องสมัครด้วยบัตรประชาชน ต้องถ่ายรูปหน้าบัตรและหลังบัตรที่มีรหัสสลับส่วนบุคคล มีการสแกนใบหน้า สมมุติถ้าเกิดถูกแฮกไปเมื่อไหร่ รับรองว่าหายนะกันทั้งประเทศ เพราะแอปทางรัฐเป็นระบบเปิดที่เชื่อมต่อไปถึงบัญชีธนาคารของทุกคนที่ลงทะเบียน ซึ่งแบงค์ชาติ ได้ท้วงติงแล้วถึงเรื่องระบบความปลอดภัย แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีคำตอบ และยังไม่มีใครรู้ว่า แอปทางรัฐ ที่เก็บข้อมูลคนไทย 50 ล้านคน ใคร บริษัทไหนเป็นคนทำระบบ และรับผิดชอบ….ได้ฟังข้อมูลจากแบงค์ชาติแล้ว ส่วนจะจริงหรือไม่จริงเป็นอีกเรื่อง แต่ฟังแล้วมันก็สยึมกุ๋ยเหมือนกัน ถ้าเกิดมีคนแฮกข้อมูลอย่างที่ว่า คนไทย 50 ล้านคนก็ล่มสลาย กลายเป็นยาจก อย่างที่ว่าเวลานี้ใครจะมารับผิดชอบต่อความเสียหายของพี่น้องถ้า หากมันเกิดขึ้น ได้ฟังแล้วก็ไม่สบายใจ เพราะเราก็เป็นหนึ่งในจำนวน 50 ล้านคน คิดแล้วกลุ้ม
….สินในน้ำ

Related posts