“เล่าเรื่อง เมืองล้านนา” 21 มิถุนายน 2567

ข่าวสังคมชาวบ้านประจำวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2567 โดยสินในน้ำ✍️….ก่อนนั้นเราเคยรักพ่อรักแม่รักลูกของเรามาโดยตลอด แต่ว่าวันนี้พ่อและแม่ของเรา ท่านอาจจะไม่อยู่กันแล้วเพราะไปอยู่บนสวรรค์กันหมด ส่วนลูกๆ เขาก็เติบใหญ่กันแล้วและดูแลตัวเองได้ วันนี้สิ่งที่คนแก่อายุตั้งแต่ 70 ถึง 80 รู้สึกอย่างไรบ้าง ต้องรู้สึกรักตัวเองให้มากขึ้น ตอนนี้เริ่มรู้ตัวแล้วว่า ตัวเรานั้นไม่ใช่ ATLAS ที่ต้องมาแบกน้ำหนักโลกใบนี้เอาไว้บนบ่า….ตอนนี้เวลาเราไปซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้หรือสิ่งของต่างๆ เท่าที่จำเป็นเราจะไม่เสียเวลาไปต่อราคากับคนขายแล้วเพราะ เงินแค่ไม่กี่บาทคงไม่ทำให้เราต้องอับจน แต่อาจจะมีความสำคัญกับพ่อค้าแม่ค้าเหล่านั้นก็ได้ ที่บางคนเขาอาจจะมีลูกเล็กๆ หรือลูกที่ยังเรียนอยู่ บางคนอาจจะมีสามีหรือภรรยาที่แก่นอนติดเตียงอยู่ที่บ้าน ทำให้เขาออกมาหาเงินเพื่อไปเยียวยาคนที่บ้านก็ได้….เวลาเราไปกินอาหารหรือว่าไปใช้บริการตามร้านต่างๆ เราวางทิปให้กับเด็กๆ น้องๆ พนักงานเสริฟมากขึ้น และการที่ได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขา ทำให้เรามีความได้เหมือนกัน เราเลิกบอกเพื่อนๆ เราว่า เอ้ยแกเคยเล่าเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว จะเล่าอีกสักกี่ครั้ง เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องแห่งความสุขส่วนตัวที่เขาได้จำไว้ในความทรงจำของเขา เราไม่ควรไปกีดขวางความสุขในความทรงจำของเขา ปล่อยให้เขาเล่าไป เราก็สุข เขาก็สุข คนแก่ส่วนใหญ่มันก็เป็นแบบนี้.…เรารู้ดีที่จะไม่พยายามแก้ไขสิ่งที่เพื่อนเราพูดหรือคิด ไม่ว่าจะถูกหรือผิด คนเราไม่มีใครที่จะครบสมบูรณ์แบบบนโลกใบนี้แม้แต่พระเจ้า และความสงบมันหายากขึ้นทุกวัน สำคัญสุด เพื่อนเริ่มหายากขึ้นทุกวัน เพราะว่าเพื่อน ในรุ่นเดียวกันส่วนใหญ่ก็ไปกันเกือบหมด เราอย่าทำตัวเป็นคนใจแคบต้องเอ่ยปากชมคนอื่นเขา บ้าง การชมคนอื่นเป็นการแสดงออกถึงความใจกว้างของเรา ซึ่งดีทั้งผู้รับและผู้ให้ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มและได้ยินคำว่า ขอบคุณ มันเป็นสิ่งที่เงินทองไม่อาจจะซื้อได้จริงๆ….เวลานี้เราเริ่มไม่ค่อยให้ความสนใจกับรอยจีบบนแขนเสื้อและขากางเกง เราคิดว่าบุคลิคภาพสำคัญกว่าเยอะ เราต้องหัดเดินหนีผู้คนที่ไม่มีมารยาทและไม่ให้ค่าเรา อย่าไปเสียเวลากับเขามันไม่มีประโยชน์ และก็ไม่ต้องไปตอบโต้ เพราะยังไงคนมันใจแคบมันก็ยังใจแคบไม่เปลี่ยนแปลง เราต้องเรียนรู้ในการมีความสุขกับทุกวันเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พยายามใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทุกวัน เพราะความสุขนั้นเราสามารถจะเลือกที่จะมีหรือไม่มีก็ได้แต่เราเลือกที่จะมี…..จังหวัดเชียงใหม่เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพบรรพชาอุปสมบท เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 เพื่อแสดงความจงรักภักดี และถวายเป็นพระราชกุศล รวมถึงเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทฯ ได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรมในพระพุทธศาสนา ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้เป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน อันจะนำไปสู่การอยู่ในสังคมร่วมกันอย่างสันติสุข โดยโครงการดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 กรกฏาคม ถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2567 รวม ทั้งสิ้น 23 วัน ในวันที่ 13 กรกฏาคม 2567 จะมีการจัดพิธีปลงผมนาคและในวันที่ 14 กรกฏาคม 2567 จะมีพิธีบรรพชาอุปสมบท ณ วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมในพิธีดังกล่าวโดยทั่วถึงกัน
….สินในน้ำ