จากการที่ได้มีชายรูปร่างสันทัดสวมหมวกแก๊ป สะพายกระเป๋า เดินเข้าไปในบริเวณซุ้มอนุสาวรีย์ช้างเผือก ทั้งสองซุ้ม โดยชายคนดังกล่าวมีนิสัยชอบขีดเขียนตามสถานที่ต่างๆ และมักใช้คำหยาบคาย โดยเฉพาะที่อนุสาวรียช้างเผือกแห่งนี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชา คู่บ้านคู่เมือง ของพี่น้องชาวเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน อีกทั้งอนุสาวรีย์แห่งนี้ ยังได้ทำการขึ้นทะเบียนตามความในมาตรา 8 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว ไม่สมควรอย่างยิ่งกับการกระทำแบบนี้ อีกทั้งอัตราโทษทางกฎหมายลงโทษหนัก จำคุกถึง 10 ปี ปรับถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทางนายเทิดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปกรที่ 7 เชียงใหม่
ได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก เมื่อได้รับแจ้งจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 โดยการอำนวย การของ พ.ต.อ. วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.ช้างเผือกพร้อมด้วยรองผู้กำกับ , สว.สส.ฯ ,สวป.และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายราเชน กู่แก้วเกษม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 27 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ฐานความผิด แก้ไข เปลี่ยนแปลง รื้อถอน ต่อเติม ทำลาย โบราณสถาน โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมตัวได้ที่ ลานอนุสาวรียสามกษัตริย์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นำตัวส่งพนักงานสอบสอน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป