“เล่าเรื่อง เมืองล้านนา” 31 กรกฎาคม 2566

                                                        ******************

                                                                       ***************

ข่าวสังคมชาวบ้านประจำวันจันทร์ที่ 31 กรกฏาคม 2566 โดยสินในน้ำ​ ✍️….วันนี้เป็นวันสุดท้ายของเดือนกรกฏกาคม และยังเป็นวันหยุดต่อไปอีกจนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2566 เรียกว่าพี่น้องได้มีเวลาพักผ่อนกันยาวๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่อึมครึม เพราะว่าการเมืองหลังจากที่เลือกตั้งมาแล้ว ในขณะที่ผมนั้งเขียนต้นฉบับนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศกันแล้วหรือยัง เพราะพรรคที่พี่น้องอุตส่าห์เลือกตั้งมากับมือกว่า 14 ล้านเสียง ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะว่าไม่ถูกใจท่านผู้มากด้วยบารมีทั้งหลายที่นั้งในสภา ใช้ทุกวิถีทางที่จะไม่ให้หัวหน้าพรรคที่มาเป็นอันดับหนึ่งขึ้นนั้งบัลลังนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แล้วพวกเขาก็ทำได้ จนทำให้ หัวหน้าพรรคที่ประชาชนคาดหวังที่จะให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เข้ามาบริหารบ้านเมือง ให้ไปในทิศทางที่ถูกที่ควร สุดท้ายต้องร้องเพลง ฝันสลายดอกฝ้ายบาน….เพราะนอกจากจะไม่ได้รับการไหวตเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังถูกเล่นงานให้หยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็น สส.พวกที่มากด้วยบารมีเขาเล่นรุนแรงไม่สนหน้าอินหน้าพรมใดๆ ทั้งสิ้น ใครจะว่ายังไงพวกข้าไม่สน จะ ต้องทำตามแบบนี้ แล้วพวกเขาก็ทำได้จริงๆ ทำเอาประชาธิปไตยหงายเหงิบกันไปเลย และหนังเรื่องนี้มันยังไม่จบ มันยังมีต่อไม่เชื่อคอยดู เพราะว่าคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี มันไม่ใช่พวกเขา แล้วแบบนี้บ้านเมืองมันจะเดินหน้ากันไปได้อย่างไร พี่น้องประชาชนก็ต้องยากจนกันไปต่ออีกไม่รู้จะนานเท่าไหร่ พวกท่านที่มากด้วยบารมีไม่เดือนร้อนสิ้นเดือนก็รับเงินเดือนกันเป็นแสน เบี้ยเลี้ยงอีกต่างหาก ไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องจ่ายค่าเดินทางใช้ภาษีของพี่น้องประชาชนนี่แหละ ผมว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับประชาชนตาดำๆ เลยสักนิด….ที่สำคัญผมเชื่อว่าพวกท่านที่มากด้วยบารมีนั้นยิ่งใหญ่คับบ้านคับเมืองจริงๆ แบบชี้นกให้เป็นไม้ก็ยังได้ ยังตระโกนดังๆ ให้พี่น้องประชาชนได้ยินอีกว่า พรรคไหนก็ตามที่จะเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล ถ้าหากว่าเอาพรรคที่ประชาชน พากันไปเลือกเข้ามากว่า 14 ล้านคน มาเป็นพรรคร่วม ก็อย่าหวังว่าจะได้จัดตั้งรัฐบาล เพราะพวกท่านไม่ถูกใจ ถึงประชาชนจะถูกใจมากแค่ไหน จะกี่ล้านก็แล้วแต่ แต่พวกข้าจำนวนร้อยไม่ถูกใจก็อย่าหวังว่าจะได้เข้ามานั้งเป็นรัฐบาล ได้ยินแล้วมันห่อเหี่ยวหัวใจ สุดท้ายบ้านเมืองมันจะเป็นอย่างไร หรือว่าจะกลับมาอย่างเก่า แค่นี้ผมว่ามันก็ว่าแย่แล้วนะ แล้วพวกท่านจะให้มัน แย่ไปกว่านี่อีกหรือ เพราะถึงมันจะแย่แค่ไหน พวกท่านก็ไม่กะทบมีเงินเดือนตายตัวอยู่แล้วเป็นแสน แต่พี่น้องประชาชนนี่สิ เขาจะอยู่กันอย่างไร พวกท่านคิดบ้างหรือเปล่า อย่าลืมสิว่า คนเรามันมีสองด้านเสมอว่าจะมองพี่น้องชาวบ้านให้เขาดีมันก็ดีได้ จะมองให้พวกเขาเลวร้ายก็ได้ สุดแล้วแต่ที่พวกท่านจะมอง แต่ผมอยากจะบอกว่าสิ่งแรกที่พวกท่านต้องมองคือได้มองตัวเองหรือยัง….ขอแสดงความดีใจไปกับ นางพญาผมขาว คุณสุ มาดาชิณะ นายกะ เจ้าของผู้จัดการร้าน โรงครัวริมนที ที่ภายหลังศาลท่านเมตตา ได้มีคำสั่งให้เป็นผู้จัดการมรดก เป็นตัวแทนของคุณพ่ออย่างสมบูรณ์แบบ เพราะว่าเป็นบุตรสาวคนเดียวของคุณพ่อนิล พินทสินธุ์ ที่ได้จากโลกนี้ไปแล้วอย่างเคลือบแคลงใจ จนต้องมีการตั้งทีมทนายเข้ามาช่วยดูแล ส่วนเรื่องข้างหน้าจะเป็น อย่างไรก็ต้องให้เวลาเป็นผู้ตัดสิน ส่วนทรัพย์สินของคุณพ่อ นิล พินทสินธุ์ จำนวนกว่าร้อยล้าน บาท ก็ว่ากันไปตามกฎหมายในฐานนะที่เป็นทายาทคนเดียวและเป็นผู้จัดการมรดก เพราะว่า หลังจากนี้อีก 20 วัน คุณสุ มดาชิณะ นายกะ ก็จะมอบให้ทีมทนายจัดการสืบทรัพย์ต่างๆ ของ คุณพ่อ ที่คาดว่าน่าจะมีมากกว่า 100 ล้านบาท ยังไงก็ขอเอาใจช่วยให้ทางคุณสุ ได้ทรัพย์สินที่เป็นของคุณพ่อนิล กลับคืนมาในฐานะที่เป็นทายาทเพียงคนเดียวของคุณพ่อ นิล พินทสินธุ์
….สินในน้ำ